คนซื้อรถที่มีเงินดาวน์น้อยจำเป็นต้องหาคนช่วยค้ำประกัน ไม่งั้นไฟแนนซ์ก็จะไม่พิจารณาให้ผ่าน คนค้ำประกันจึงเป็นคนที่อาจตัดสินการขอไฟแนนซ์ครั้งนี้ได้เลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ว่ามีบุคคลบางอาชีพที่ไฟแนนซ์ไม่ค่อยชอบ ถ้าเป็นไปได้ก็จะหลีกเลี่ยงให้คนที่ทำอาชีพเหล่านี้เป็นคนค้ำประกัน อาชีพที่ว่า เช่น ทนายความ ทหาร ตำรวจ
จริงๆแล้วไฟแนนซ์จะไม่ชอบให้คนที่เป็นข้าราชการมาค้ำให้ เพราะเวลามีปัญหาขึ้นมา ไฟแนนซ์มักจะเอาเงินคืนหรือยึดทรัพย์สินได้ยาก แต่อาชีพที่ไฟแนนซ์กลัวมากที่สุดก็คือ 3 อาชีพที่ว่า ทนายความ ทหาร และ ตำรวจ
ทำไมไฟแนนซ์จึงไม่ชอบให้ทนายความ ทหาร และตำรวจเป็นคนค้ำประกัน
สาเหตุก็เพราะคนที่ทำอาชีพเหล่านี้มีความรู้ทางด้านกฎหมายเยอะ ทำให้รู้จุดอ่อนของไฟแนนซ์ โดยเฉพาะเวลามีปัญหาขึ้นมา ไพ่ตายของไฟแนนซ์ก็คือ การบังคับคดี เช่นการยึดทรัพย์สิน อายัดเงินเดือน เงินในธนาคาร เป็นต้น แต่ไฟแนนซ์จะเรียกเก็บเงิน หรือยึดทรัพย์สินจากคนอาชีพเหล่านี้ได้ยากมาก อย่างทนายความนี่รู้ทางหนีทีไล่ดีที่สุด ส่วนใหญ่จะให้คนอื่นถือครองทรัพย์สินของตัวเองหมด นั่นหมายความว่าไฟแนนซ์ไม่สามารถยึดทรัพย์ได้เลยเพราะไม่มีทรัพย์สินอยู่ที่ตัวเค้าเลย ส่วนทหารกับตำรวจ หรือข้าราชการนั้นไฟแนนซ์ไม่สามารถสั่งอายัดเงินเดือนได้ เพราะเงินที่ทางราชการจ่ายให้ ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี นั่นหมายความว่าถ้าเค้าไม่ยอมจ่าย จะไปบังคับให้เค้าจ่ายนั้นไม่ง่ายเลย
จุดอ่อนของข้าราชการ
ถึงแม้ว่าข้าราชการจะเป็นอาชีพที่ไฟแนนซ์ไม่สามารถสั่งอายัดเงินเดือนได้ แต่จุดอ่อนที่สำคัญของคนในอาชีพข้าราชการก็คือ "เรื่องเสียชื่อเสียง" ในกรณีที่มีการฟ้องร้องขึ้นต้องมีการขึ้นโรงขึ้นศาล มีการฟ้องบังคับคดี นั่นหมายความว่า ถ้าใครโดนฟ้องหรือมีหมายศาลมาถึงบ้าน ก็จะรู้สึกเสียหน้า เสียชื่อเสียง คนรอบตัวอาจเอาไปนินทาได้ จุดนี้เองที่อาจทำให้ข้าราชการที่เป็นคนค้ำต้องรีบหาเงินมาจ่ายให้กับไฟแนนซ์ เพราะไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้านนั่นเอง
แล้วจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี?
ส่วนใหญ่ถ้าใครเอาทหาร ตำรวจ หรือทนายความมาเป็นคนเค้าประกัน ไฟแนนซ์มักจะให้เปลี่ยนคนค้ำประกันเป็นอาชีพอื่น เพราะไม่อยากมีปัญหาในภายหลัง อีกวิธีหนึ่งก็คือขอคนค้ำประกันเพิ่มเติม กลายเป็นค้ำ 2 คน อันนี้ก็จะมีสิทธิ์กู้ผ่านมากขึ้น และวิธีแก้ปัญหาวิธีสุดท้ายก็คือเพิ่มเงินดาวน์เป็น 20-25% ถ้าดาวน์เยอะขนาดนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีคนค้ำประกันแล้ว
เรื่องคนค้ำประกันบางครั้งก็น่าปวดหัว แต่ก็อย่างว่านะครับ ไฟแนนซ์เองก็ต้องป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ตอนมีเงินไม่มีใครอยากติดค่างวดหรือไม่จ่ายค่างวดหรอกครับ แต่เวลามันไม่มีนี่สิ ไม่ว่าจะสนิทกับคนค้ำมากแค่ไหนก็มีสิทธิ์จะหนีหายเข้ากลีบเมฆได้ ทิ้งภาระให้กับคนค้ำต้องรับผิดชอบภาระหนี้สินกันต่อไป เพราะฉะนั้นใครที่คิดจะเป็นคนค้ำประกันให้คนอื่น คิดไตร่ตรองให้ดีๆก่อนนะครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น