เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทที่ให้บริการด้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า บริษัทไฟแนนซ์ อยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหน้าเก่า,หน้าใหม่ ต่างก็มีโปรโมชั่นจูงใจมากมายที่แต่ละค่ายขนกันมานำเสนอแก่ลูกค้า โดยเฉพาะธนาคารต่างๆก็พากันคลอดลูกออกมาเป็นบริษัทไฟแนนซ์กันทั้งนั้น ซึ่งแต่ละบริษัทย่อมมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามในใจว่า แล้วเราในฐานะลูกค้าผู้รับข้อมูลข่าวสารจากทุกทิศทุกทาง ควรจะเลือกใช้บริการขอสินเชื่อรถยนต์กับบริษัทไฟแนนซ์ไหนดี จึงจะเหมาะสมกับเราที่สุด?
บทความต่อไปนี้ ผู้เขียนตั้งใจเขียนเพื่อแชร์ประสบการณ์ทั้งในฐานะคนที่เคยทำงานให้กับบริษัทไฟแนนซ์และในฐานะลูกค้าของบริษัทไฟแนนซ์คนหนึ่ง โดยอาศัยประสบการณ์ตรงจากตัวผู้เขียนเองผสมผสานกับประสบการณ์จากคนรอบกาย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องและคนรู้จักนับถือ แต่ทั้งนี้ผู้เขียนต้องขอทำความเข้าใจก่อนครับ เนื่องจากบทความนี้ต้องการสื่อสารแก่คนหมู่มากให้เข้าใจ จึงขออนุญาตใช้ภาษาพูดที่เข้าใจง่าย และจะเขียนด้วยความตรงไปตรงมา ที่สำคัญ ผู้เขียนไม่มีเจตนาที่จะใส่ร้ายหรือเข้าข้างบริษัทใดบริษัทหนึ่งทั้งสิ้น เนื้อหาที่ผู้อ่านจะได้รับทราบต่อไปนี้ เป็นบทความที่มาจากทรรศนะของผู้เขียนเองทั้งสิ้น ซึ่งคงไม่จำเป็นต้องเตือนนะครับว่า ควรใช้วิจารณญาณในการรับฟัง
ขอสินเชื่อรถยนต์กับบริษัทไฟแนนซ์ไหนดีที่สุด เหมาะกับเราที่สุด?
เราเป็นลูกค้าสินเชื่อรถยนต์แบบไหน?
ลูกค้าสินเชื่อเกรด A
นอกจากการงานมั่นคงแล้ว จะต้องมีอายุงานนานพอสมควร ประวัติต้องดี ไม่มีแบล็กลิสต์ติดตัว เรียกว่า ขาวสะอาดทั้งเรื่องบ้าน บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลและการค้ำประกันผู้อื่น ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าเกรด A ไม่ได้หมายความเฉพาะมนุษย์เงินเดือนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการค้าขายต่างๆ ที่ประกอบอาชีพมานานพอสมควรด้วย แน่นอนว่าส่วนมากอยู่ในวัยกลางคน
ลูกค้าสินเชื่อเกรด B
กลุ่มลูกค้าสินเชื่อเกรด B มีผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์หรือบริษัทไฟแนนซ์รองรับอยู่เป็นจำนวนมากเพราะเป็นกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ของตลาด ไม่ว่าคุณจะเดินเข้าไฟแนนซ์ไหน ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ค้ำมากกว่า)
ลูกค้าสินเชื่อเกรด C
กลุ่มลูกค้าสินเชื่อเกรด C กลุ่มนี้เรียกว่าเป็นกลุ่มที่ผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์หรือบริษัทไฟแนนซ์จะต้องแบกรับความเสี่ยงไว้สูงหน่อย ชาวเกรด C นี้ไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่ดีนะครับ เพียงแต่เป็นคนที่ประวัติไม่ดีเท่านั้นเอง เช่น อาจจะเคยพลาดเป็นหนี้บัตรเครดิต , บัตรกดเงินสดหรือสินเชื่อส่วนบุคคล , เคยจัดรถมาแล้วไม่ว่าจะรถยนต์หรือมอ’ไซด์แต่เกิดวิกฤติชักหน้าไม่ถึงหลัง สุดท้ายต้องโดนยึดรถและถูกฟ้องคดีเรียกค่าเสียหาย , แม้กระทั่งด้วยความใจดีเคยไปค้ำประกันให้ใครก็ตาม แต่สุดท้ายต้องโดนฟ้องคดีไปด้วย เป็นต้น
มนุษย์เงินเดือนที่รายได้สุทธิน้อยหน่อย บรรดาพ่อค้าแม่ค้า อาชีพอิสระ เกษตรกร หรืออะไรก็ตามที่แม้จะมีรายได้เยอะ แต่ไม่ใช่ลักษณะเป็นงานประจำ สม่ำเสมอ ซึ่งพูดง่ายๆว่ามีรายได้เป็นครั้งคราวนั่นแหละครับ ความไม่แน่นอนถือเป็นความเสี่ยงสูง
เอาหล่ะ...ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงการเริ่มต้นในการขอสินเชื่อรถยนต์ประการแรกเท่านั้น เชื่อว่า หากเรารู้จักตัวเองแล้ว สามารถมองตัวเองออก ย่อมเลือกใช้บริการบริษัทไฟแนนซ์ได้ง่ายและเหมาะสมขึ้น ส่วนเรื่องบริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์หรือไฟแนนซ์นั้น ผมไม่ขอลงรายละเอียดนะครับ เพราะคาดว่าผู้อ่านทุกท่านคงทราบดีและนึกภาพออกอยู่แล้ว
ในเรื่องต่อไป เมื่อเรามีตัวเองเป็นผู้เช่าซื้อแล้ว หากไม่ต้องการจ่ายเงินดาวน์เยอะ ก็ต้องหาผู้ค้ำประกันครับ บทความต่อไปผู้เขียนจะบอกเล่าถึงคุณสมบัติของผู้ค้ำประกันที่ดี
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น